ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช เผยอย่างมั่นใจหากมีอำนาจจะแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ คอลเซ็นเตอร์ ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เปรยที่ผ่านมาคนรู้ไม่มีอำนาจก็ได้แต่บ่น
(อ่านแล้ว 240 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันนี้ 18 ต.ค.2565 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ได้มีดำริในที่ประชุม ครม.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันปราบปรามแชร์ลูกโซ่ แกงค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงพนันออนไลน์

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช กล่าวว่า วันนี้ในการประชุม ครม.ในวาระล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงใยพ่อแม่พี่น้องประชาชน ซึ่งกลายเป็นเรื่องฮือฮาในที่ประชุม ครม.เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีดำริสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลเรื่องนี้ ตนเองดีใจที่ท่านนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนและให้ความสนใจในเรื่องแชร์ลูกโซ่ คอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแชร์ลูกโซ่ เป็นปัญหาที่แก้ยากมาก ถ้าคนที่แก้ไม่มีความรู้ อย่างที่ตนเองเคยเปรยบ่อยๆว่า คนรู้ไม่มีอำนาจก็ได้แต่บ่น ถ้าคนมีอำนาจแต่ไม่รู้ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ตนเองอยากเสนอท่านนายกรัฐมนตรีอยู่อย่างหนึ่งในการแก้ปัญหา คือ เรื่องยากให้ใช้คนเก่ง เรื่องใหญ่ให้ใช้คนเยอะ ทีนี้ปัญหาที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้เอ่ยในที่ประชุมมันเป็นเรื่องยากท่านต้องใช้คนเก่งเข้าไปทำ

จากที่ผ่านมาแม้จะมีข่าวการถูกหลอกจากแชร์ลูกโซ่ อย่างล่าสุดก็เป็นคดี Forex 3D แต่ก็ยังคงมีคนอีกจำนวนมากที่ยังสามารถูกหลอก เพราะแชร์ลูกโซ่แอบแฝงเข้ามาหลายรูปแบบ ตนเองเคยกล่าวไว้ท่านนายกรัฐมนตรี  สมัยที่ท่านเป็น คสช.ก็ได้มีคำสั่งสำนักนายกที่ 253/60 แต่งตั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกดูแลเรื่องนี้ แต่ในเมื่อคนไม่รู้มามีอำนาจก็ไม่สามารถแก้ปัยหาได้จึงผุดแชร์ลูกโซ่ขึ้นมามากมายและต่อเนื่อง ทั้งคดีโชกุน แชร์แม่มณี  โอดีแคปปิตอล จนมาถึง Forex 3D ไม่มีลดมีแต่เพิ่ม

มาถึงตรงนี้ตนเองอยากขอแสดงความดีใจกับผู้เสียหายในคดีโอดีแคปปิตอล ศาลแพ่งมีคำสั่งเด็ดขาดคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหาย หลัง ปปง.มีการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาไว้ร้อยกว่าล้าน ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปยื่นเอกสารรับทรัพย์ที่เสียไปคืนตามสัดส่วนได้ตามประกาศของ ปปง.นับเป็นอีกคดีที่ตนเองภาคภูมิใจที่มีส่วนช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชน 

วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุม ครม.ว่าให้รายงานผลแชร์ลูกโซ่ภายใน 30 วัน นั่นเพราะปัญหาเรื่องดังกล่าวไม่ได้เบาบางลง ตนเองรับเรื่องร้องทุกข์แชร์ลูกโซ่ทุกวัน มีคนถูกหลอกทุกวัน แต่ในวันนี้กระบวนการการแก้ปัญหายังไม่เป็นรูปธรรม ตนเองไม่รู้คนที่นำเสนอนายกกำกับดูแลด้านนี้มีความรู้แค่ไหน เข้าใจปัญหานี้มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเขาเข้าใจปัญหานี้น่าจะแก้ไปได้แล้ว หากท่านพูดว่าเหยื่อแชร์ลูกโซ่คือคนโลภก็คงไม่ต้องแก้ปัญหาอะไรแล้ว ซึ่งแท้จริงแล้วพวกเขาไม่ใช่คนโลภ เขาถูกหลอกลวงถูกสร้างความหวัง ความศรัทธา ถูกสร้างให้เชื่อมั่นด้วยข้อมูลเท็จ อย่างเกิดคดีโอดีแคปิตอลขึ้น มาถึง Forex 3D ก็ยังมีคนโดนหลอกเพราะเขาคิดว่าอันนั้นมันหลอก แต่อันนี้เป็นของจริง ทีนี้เหยื่อจะเชื่อใครจะมีใครเตือนที่น่าเชื่อถือ ซึ่งหน้าที่นี้ควรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ออกมาเตือนว่าอันนี้ผิด ห้ามทำ สมัยก่อนมีมติ ครม.ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐเล่นแชร์ด้วยซ้ำ เราต้องทบทวนว่ากฎหมายเราพอถึงเวลาจริงๆสามารถบังคับใช้กฎหมายได้หรือเปล่า เรามีพรก.กฏหมายการยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน วันนี้มีกฎหมาย มีคนรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่เจ้าภาพเป็นเพียงงานฝากไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

สมัยตนเองเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมไม่มีแชร์ลูกโซ่ เพราะตนเองเฝ้าระวังอยู่ตลอด ให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฏหมายไม่ว่จะเป็น กลต. / ปคบ. / ปอท. / สำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง / กระทรวงมหาดไทยเข้ามาประชุม VROOM ตอนนั้นมีแชร์ประสิทธิ เจียวก๊ก เอามาพูดในที่ประชุม แป๊ปเดียวถูกจับทันที เพราะฉะนั้นวันที่ ท่านนายกรัฐมนตรีต้องมอบให้เจ้าภาพจริงๆทำงานด้านนี้ ถ้าทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนตัว เรื่องแชร์ลูกโซ่ คอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้คนไทยบางคนมาหลอกคนไทยด้วยกันเอง

กฎหมายการยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานใช้อำนาจตามมาตรา 7 ส่งเรื่องให้อัยการจังหวัด ให้ผู้การจังหวัด ก็สามารถปิดคดีได้เหมือนครั้งที่ตนเองเคยร่วมมือกับ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ปราบคดีกุ้งก้ามแดง คดีหลอกลงทุนปลูกหม่อน ปลูกมันญี่ปุ่น เป็นต้น อย่างในกรุงเทพฯ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง มีอำนาจตามมาตรา 7 เช่นกัน แต่ควรต้องแก้ใหม่เพราะ สำนักงานเศรษฐกิจกระทรวงการคลังไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีความชำนาญการพอที่จะเข้าไปตรวจสอบพวกบริษัททั้งหมดที่หลอกลวงประชาชน และทุกวันนี้แตกต่างจากสมัยก่อนเพราะบริษัทหลอกลวงใช้วิธีหลอกทางออนไลน์ เพราฉะนั้นเรามีกระทรวงดิจิตอล มี พรบ.คอมพิวเตอร์ และมี หน่วยงานตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบดำเนินคดีตาม พรก.กฏหมายกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ได้ทันที 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ก็เยอะขึ้นทุกวัน ตำรวจตามโรงพักไม่สามารถแก้ปัญหา หรือ ทำงานตรงนี้ได้ เพราะตำรวจไม่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนโทรมาหลอก ยกตัวอย่างคดีหมิ่นประมาททางเฟซบุ้คตำรวจยังไม่สามารถหาคัวได้เลย ต้องส่งคดีมาที่ ปอท. หรือ กระทรวงดิจิตอล และถ้าสองหน่วยงานนี้ไม่ตอบกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกวันนี้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรศัพท์ระบบเมืองไทย ไม่ใช่ระบบสัญญาณเมืองนอก นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มันเริ่มรุกเข้ามา เพราะขบวนการทางกฎหมายเราช้าและเดี่ยวนี้ไม่ได้หลอกให้โอนเงิน มันหลอกให้แสกนคิวอาร์โค้ดบ้างแอดไลน์บ้าง พอทำไปปรากฏว่าโดนแฮกโทรศัพท์ควบคุมมือถือเราจากระยะไกล ทำให้สูญเงินหมดตัว ทีนี้ชาวบ้านจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นของจริง ใครมาหลอก เพราะฉะนั้นเราต้องมีกฎหมายที่รุนแรงให้มิจฉาชีพกลัวต่อบทลงโทษ

ตนเองคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีต้องมอบหมายสั่งการเช่นคดีพวกนี้ รัฐมนตรีดิจิตอล หรือรัฐมนตรีคนไหนก็ได้คนใดคนหนึ่งรับผิดชอบปัญหานี้ต้องแก้ปัญหาได้ถ้าทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนตัว เรื่องนี้ฝ่ายค้านอภิปรายไว้หลายครั้งแล้ว เราก็เห็นว่าเป็นความเดือนร้อนของประชาชน เป็นความมั่นคงของชาติ เพราะประชาชนถูกหลอกกว่าจะได้เงินคืนนั้นยากมาก กระบวนการกฎหมายล่าช้า กระบวนการคืนทรัพย์ยิ่งช้ากว่า 

อย่างเรื่องการพนันออนไลนืก็เหมือนกันประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมีขึ้นโชว์อยู่ทุกเว็ปไซด์ มันสะท้อนให้เห็นว่าคนที่ท่านนายกให้ดำรงตำแหน่งมอบหมายให้ดูสั่งการลงไปเขามีความรู้ มีความตั้งใจ มีความสันทัดในเรื่องนั้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้เสนอเรื่องราวทั้งหมดให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯแล้วซึ่งท่านก็สั่งการให้ ส.ส.นำเสนอ พรบ.กฏหมายป้องกันปราบปรามแชร์ลูกโซ่เข้าที่ประชุมสภาแต่มีความเห็นของหลายหน่วยงานที่เข้าใจคลาดเคลื่อนเลยออกความเห็นให้ท่านนายกไม่รับรองกฏหมายฉบับนั้น แต่ในส่วนตัวตนเองเชื่อมั่นว่าท่านนายกมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้ และตนเองเชื่อว่าประชาชนนั้นให้กำลังใจ ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ประวิตรในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองรวมทั้งปัญหาทั้งสามเรื่องดังกล่าว นายสามารถ กล่าวปิดท้ายว่า ถ้าตนเองมีอำนาจตนเองสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน เพราะตนเองจะทำให้ขบวนการยุติธรรมรวดเร็วขึ้นยึดทรัพย์อาชญากรมาคืนประชาชนโดยเร็วที่สุด

 

 

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ