ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย : ยอดผู้เสียชีวิตทะลุกว่า 33,000 คน - ตุรกีออกหมายจับ 113 ผู้รับเหมา ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
(อ่านแล้ว 161 ครั้ง)
Share on Google+

 ครบหนึ่งสัปดาห์ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกีและซีเรีย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 33,000 รายแล้วและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ด้านทางการตุรกีเร่งควบคุมความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภัยพิบัติและเริ่มดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างตึกอาคารที่พังถล่มจากแผ่นดินไหวแล้ว

แผ่นดินไหวที่ตุรกีและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เป็นเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงเป็นอันดับ 6 ของโลก หลังจากมีผู้เสียชีวิตเกิดกว่า 31,000 คนแล้ว มากกว่าแผ่นดินไหวในประเทศอิหร่านเมื่อปี 2003

ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดในตุรกีอยู่ที่ 29,605 คน และที่ซีเรีย 3,500 คน ขณะที่ทางการตุรกีเผยว่ามีผู้บาดเจ็บรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 80,000 คน และอีก 1 ล้านคนต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้ 2 เท่า หรือเกิน 50,000 คน

เมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยผู้รอดชีวิตออกมาจากซากปรักหักพังของอาคารได้เพิ่มเติมหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว 6 วัน

ที่เมืองอันทาเคียของตุรกี ทีมกู้ภัยจากจีนและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของธุรกิจ ช่วยชีวิตชายชาวซีเรียวัย 54 ปี หลังจากผ่านไปแล้ว 156 ชั่วโมง

อาคารที่ยังไม่พังถล่มลงมาซึ่งมีจำนวนไม่กี่หลังบนถนนหลักของเมืองอันทาเคีย พบรอยแตกร้าวขนาดใหญ่และชิ้นส่วนที่ตกแต่งด้านหน้าอาคารแตกร้าวเป็นโพรง ขณะที่การจราจรในเมืองต้องหยุดเป็นระยะ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยประกาศให้ทุกความเคลื่อนไหวเงียบเสียงลงเพื่อจับสัญญาณชีวิตที่อยู่ภายใต้ซากอาคารที่ถล่ม

ผู้รอดชีวิตในการกู้ภัยเมื่อวันอาทิตย์ ยังมีพ่อและลูกสาว เด็กทารก และเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่ได้รับการช่วยเหลืออกมา

ส่วนที่เมืองฮาเตย์ (Hatay) ทางตอนใต้ของตุรกี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือเด็กหญิงคิวดี้ วัย 12 ปี ออกมาได้หลังจากติดอยู่ 147 ชั่วโมง และเด็กวัย 7 เดือน หลังจากผ่านไปแล้ว 139 ชั่วโมง สื่อของรัฐบาลตุรกียังรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่เมืองกาซีอันเต็ปออกมาได้อีกหนึ่งราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยร้องเรียกขณะดึงเด็กหญิงออกมาได้ว่า "หนูคือปาฏิหาริย์"นอกจากการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต สถานการณ์ในตุรกียังเผชิญกับเหตุการณ์ความไม่สงบจากการปล้นทรัพย์ ที่เมืองอันทาเคีย เจ้าของร้านค้าต้องย้ายสินค้าในร้านออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกขโมย ขณะที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือซึ่งเดินทางจากเมืองอื่นต้องเผชิญกับเรื่องนี้เช่นกัน หลังจากเกิดการลักทรัพย์เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางตามร้านค้าและบ้านเรือนที่พังถล่ม

ตุรกีกำลังจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานาธิบดีวันที่ 14 พ.ค.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน จากเหตุความไม่สงบเรียบร้อยดังกล่าว ประธานาธิบดีเรเจป ให้คำมั่นว่า จะจัดการกับการปล้นทรัพย์เหล่านี้

ส่วนกรณีโครงสร้างของตึกอาคารที่ถล่มจากแผ่นดินไหวที่ถูกตั้งคำถามถึงความปลอดภัยว่าภัยพิบัติได้ถูกทำให้เลวร้ายขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์ ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงใน 10 จังหวัด ล่าสุดทางการตุรกี ออกหมายจับจำนวน 113 หมายจับต่อผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารที่พังถล่ม และมีผู้ถูกจับกุมคุมขังแล้ว 12 ราย รวมทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง

เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของตุรกี ทำให้ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวต้องชะงักลงในบางพื้นที่

หน่วยกู้ภัยเยอรมัน และกองทัพออสเตรีย หยุดปฏิบัติการค้นหาเมื่อวันเสาร์ (11 ก.พ.) โดยอ้างถึงเหตุปะทะระหว่างกลุ่มไม่ทราบชื่อ

หน่วยกู้ภัยรายหนึ่งกล่าวว่า คาดว่าการรักษาความปลอดภัยจะเลวร้ายลง เนื่องจากการขาดแคลนอาหาร น้ำ รวมถึงความหวังที่ลดน้อยถอยลง

ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี กล่าวว่า เขาจะใช้อำนาจฉุกเฉินลงโทษกับบุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย

โฆษกกองทัพออสเตรียกล่าวว่า เหตุปะทะระหว่างกลุ่มไม่ทราบชื่อที่เกิดขึ้นในจังหวัดฮาเตย์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพิบัติฉุกเฉินออสเตรียหลายสิบคนต้องหาที่หลบภัยในเบสแคมป์ ร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ

พ.ท. ปิแอร์ คูเกลไวส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “มีความแข็งกร้าวมากขึ้นในระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ในตุรกี” และ “โอกาสในการช่วยชีวิตจะเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล หากมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย”

ไม่กี่ ชม. หลังจากออสเตรียหยุดปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัย กระทรวงกลาโหมของตุรกีออกมาระบุว่า กองทัพตุรกีจะเข้ามาคุ้มกัน และทำให้ปฏิบัติการกู้ชีพกู้ภัยยังดำเนินต่อไปได้

ล่าสุดกระทรวงกลาโหมออสเตรียรายงานว่า ทีมกู้ภัยออสเตรียกลับเข้าร่วมภารกิจอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัย ISAR ของเยอรมนี และสำนักงานบรรเทาทุกข์เชิงเทคนิคแห่งเยอรมนี (TSW) ก็ประกาศยุติปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัย โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยเช่นกัน

โฆษกหน่วยกู้ภัย ISAR แถลงว่า มีรายการการปะทะกันระหว่างกลุ่มต่าง ๆ มากขึ้น มีการยิงปืนด้วย

อย่างไรก็ตามทีมกู้ภัยเยอรมนีให้คำมั่นว่าพร้อมกลับมาเปิดปฏิบัติการอีกครั้ง ทันทีที่ทางการตุรกีสามารถดูแลสถานการณ์ให้ปลอดภัยได้

ประธานาธิบดีตุรกียังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดฮาเตย์ แต่ย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม

ในระหว่างลงพื้นที่ประสบภัยพิบัติเมื่อ 11 ก.พ. นายแอร์โดอันระบุว่า รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว นั่นหมายความว่าจากนี้หากใครมีส่วนร่วมในการปล้นสะดม หรือการลักพาตัว จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

เอเอฟพีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากสื่อรัฐบาลตุรกีว่า เมื่อวันเสาร์ มีผู้ถูกจับกุม 48 ราย ด้วยข้อหาลักทรัพย์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังยึดของกลางไว้หลายรายการ มีปืนหลายกระบอก เงินสด เครื่องประดับ และบัตรธนาคาร

ชายวัย 26 ปี ที่กำลังเร่งค้นหาเพื่อนร่วมงานท่ามกลางซากอาคารที่พังถล่มลงมาในกรุงอังการา กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “ผู้คนกำลังทุบหน้าต่างและประตูของร้านค้า และกระจกรถยนต์แล้ว”

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของโลกเกิดขึ้นเมื่อ 6 ก.พ. โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ติดกับพรมแดนซีเรีย มีความรุนแรงขนาด 7.8 และครั้งที่สอง มีความรุนแรงขนาด 7.5

ยอดผู้เสียชีวิตทั้งในตุรกีและซีเรียพุ่งเป็น 28,191 คนแล้ว แบ่งเป็น ผู้เสียชีวิตในตุรกี 24,617 ราย และซีเรีย 3,574

นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการฝ่ายกิจการมนุษยชนของยูเอ็น และหัวหน้าผู้ประสานงานการบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉิน คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มอีก 2 เท่าจากจำนวนผู้เสียชีวิตในปัจจุบัน

ในระหว่างตรวจเยี่ยมเมืองคาห์รามันมาราสของตุรกี ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งแรก นายกริฟฟิธส์กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะประเมินยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากจำเป็นต้องค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังก่อน แต่มั่นใจว่าจะสูงกว่ายอดปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 เท่า หรือมากกว่านั้น

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพและกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ตามซากอาคาร ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บในทั้ง 2 ประเทศ ยูเอ็นเตือนว่า ผู้ประสบภัยอย่างน้อย 870,000 คนกำลังต้องการอาหารปรุงสุกใหม่ และคาดว่าเฉพาะซีเรียประเทศเดียว อาจมีคนไร้บ้านมากถึง 5.3 ล้านคน

 

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ