ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
เครือข่ายเหยื่ออุบัติเหตุเมา บุก บช.น. ยื่นหนังสือร้องจัดหนักสถานบันเทิง - ฟื้นด่านตรวจเมา
(อ่านแล้ว 5251 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( บช.น.)  เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายประศม สุขแสวง ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยกลุ่มคนพิการที่ได้รับผลกระทบจากการเมาแล้วขับ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. โดยมีผู้แทนมารับเรื่อง

นายประศม สุขแสวง ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือวันนี้เพื่อเรียกร้องมาตรการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนกับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา  4 ข้อ ดังนี้

1. ขอให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์เมื่อเกิดเหตุกรณีมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในทันที ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง  2 ฝ่าย และลดข้อครหาในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องความไม่โปร่งใส เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาที่มูลนิธิเมาไม่ขับเป็นประจำ

2. ขอให้มีการลงโทษสูงสุดกับสถานบันเทิงที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ

3. กรณีที่ปรากฎพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน อายุต่ำกว่า 20 ปี และผลการชันสูตรในร่างกายพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน ร้านค้า สถานประกอบการ สถานบันเทิง บุคคลที่มีส่วนสนับสนุนทั้งทางตรง ทางอ้อม จนเป็นเหตุให้ผู้เยาว์รายนั้นเสียชีวิต  โดยขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายใน พรบ.คุ้มครองเด็ก และพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะหาประโยชน์บนคราบน้ำตาของเยาวชนอีกต่อไป

4. ขอให้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่อย่างเป็นรูปธรรมจริงจัง เหมือนเมื่อก่อนไวรัสโควิด19 ระบาด เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ ไวรัสโควิด 19 ทุเลาเบาบางลง การตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์จึงสมควรเป็นนโยบายที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกลับมาพิจารณาดำเนินการใหม่ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในกรุงเทพมหานคร

นายประศม สุขแสวง กล่าวต่อว่า ในฐานะเหยื่อเมาแล้วขับ พวกเราไม่อยากให้เด็กเยาวชน ต้องประสบชะตากรรมเหมือนพวกเรา จึงขอเรียกร้องให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำหนดนโยบายที่เด็ดขาดจริงจัง โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ทั้งนี้เพื่อปกป้องชีวิตของลูกหลาน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการสถานบันเทิง และการฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่บางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่สถานบันเทิงรู้เห็นเป็นใจให้เด็กอายุตำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ต้องมีการลงโทษสถานหนัก และถ้าในกรณีที่เด็กเยาวชนที่ไปใช้บริการ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และพิสูจน์ทราบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายจะต้องมีการสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กเยาวชนรายนั้น ทั้ง พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพรบ.คุ้มครองเด็ก ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงลอยนวล

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ