ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช เป็นห่วงอาชญากรรมบนท้องถนนจะผันกลายเป็นอาชญากรรมทางไซเบอร์
(อ่านแล้ว 387 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันที่ 9 ก.ย.65 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม / ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณี นายโชติพงศ์ หรือ ปี้ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นร้านทองในห้างโลตัส จว.สระแก้ว ได้ทองคำไปจำนวน 61 บาท แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปบ้านพัก ก่อนถูกปิดล้อมแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ต่อมาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำกำลังตำรวจกว่า 150 นาย ปิดล้อมตรวจค้นตั้งแต่เมื่อวานกระทั่งเฝ้าจนถึงรุ่งเช้า ยังไม่พบตัวจึงได้เรียกกำลังเสริมจากสถานีตำรวจใกล้ เคียงสีโรงพักเข้าปูพรมเดินเท้า กระทั่ง เมื่อเวลา 14.05 น. ชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวได้อยู่ที่กระท่อมริมน้ำในสภาพอิดโรยสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินขนาดนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวออกมาจากป่า

ซึ่งตนเองคิดว่าผู้ต้องหาถูกจับกุมได้โดยละหม่อม  และทองที่ปล้นมาก็ถูกส่งกลับให้กับทางร้านทอง  แต่ ถ้าถูกโกงออนไลน์นั้นคดีต้องส่งไปสู่ศาลในกระบวนการพิจารณา  ตนเองขอหยิบยกข้อมูลการแจ้งความ  ในช่วงเดือนส.ค. ที่ผ่านมา พบมีประชาชนติดต่อแจ้งความคดีออนไลน์ผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com รวมทั้งสิ้น 17,254 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 3,317,955,389 บาท โดยหลังจากการประสานงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการอายัดบัญชีที่ใช้ในการกระทำความผิด 4,066 บัญชี  โดยมี  ประเภทคดีที่มีผู้เสียหายแจ้งเข้ามาเป็นลำดับต้นๆ เปลี่ยนแปลงไปจากข้อมูลภาพรวมที่เคยทำการสรุปไว้ช่วง 4 เดือนแรก หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการเปิดรับแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์www.thaipoliceonline.comโดยประเภทคดีออนไลน์ที่ได้รับการแจ้งความมากสุด 5 อันดับแรก ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ 1.ซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า (34.09%) 2.หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ (19.21%) 3.หลอกให้ทำงานออนไลน์ (13.20%) 4.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (12.48%) และ 5.ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว หรือ Call Center (6.08%) ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอาชญากรรมบนท้องถนน  จะน้อยลง  เรามีตำรวจสายสืบ  ตำรวจปราบปรามทุกโรงพัก  ทุกท้องที่  แต่อาชญากรรมทางไซเบอร์เราไม่คนติดตาม ปกป้องพ่อแม่พี่น้องประชาชน จีงทำให้อาชญากรรมประเภทนี้มากขึ้น

ล่าสุด  ตำรวจไซเบอร์ยึดรถหรู  จากคนหลอกลวงให้ลงทุนขุดเหมืองทอง  แต่ทรัพย์สินนั้นยังไม่สามารถนำมาขายทอดตลาดคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้  กระบวนการต้องส่งให้ศาลเป็นผู้สั่ง  ซึ่งแตกต่างกับการปล้นร้านทอง  และ  ปล้นธนาคารทั้งๆที่ความเสียหายจากออนไลน์นั้นมากกว่าอาชญากรรมบนท้องถนนแล้ว ตนเองว่าคงถึงเวลาแล้วที่ รัฐบาล  และ  คนไทยทั้งประเทศจะตกผลึกของปัญหานี้ร่วมกัน ไม่อย่างนั้นประเทศไทยจะเป็นแหล่งที่โจรจากทั่วโลกจะมาตั้งประเทศไทยเป็นฐานอาชญากรรมเศรษฐกิจได้ ตนเองไม่อยากเห็นพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยต้องหมดตัวจากปัญหานี้

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ