ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช โพสต์คลิปออเจ้าเข้าพบบิ๊กตู่สร้างมุมมองน่ารักของนายกรัฐมนตรี ชี้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ควรทำงานแก้ความเท็จ ใส่ความจริงให้พรรคและรัฐบาล เพื่อส่งถึงประชาชนรับรู้
(อ่านแล้ว 240 ครั้ง)
Share on Google+

วันนี้ 20 ต.ค.2565 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ๋ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนได้ถามถึงที่นายสามารถได้โพสต์คลิป วันที่19 ต.ค.2565 ถึงกรณี ทีมงานดาราจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่เดินทางมาเยี่ยมท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาพร้อมแคปชั่นว่า มุมมองน่ารักของลุงตู่ ผูกใจเจ็บยังยิ้มเลย  ซึ่งสื่อมวลชนได้สอบถามไปยังนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ถึงการโพสต์คลิปครั้งนี่ โดยนายสามารถ ได้กล่าวว่า คลิปนี้เป็นคลิปที่ตนเองได้ดูแล้วแอบยิ้มอยู่ตลอด ตนเองจึงคิดว่าเอาภาพมุมน่ารักของลุงตู่ที่คนไม่ได้สัมผัสโพสต์ให้คนได้เห็นกันและมีคนมาคอมเมนท์มากมาย  ซึ่งภาพของลุงตู่สำหรับคนไม่ได้สัมผัสก็จะมองว่าเป็นคนกร้าวร้าว ฉุนเฉียวง่ายชอบทะเลาะกับสื่อ ตนเองจึงเอาคลิปให้สมาชิกและคนที่เข้าใจผิดในตัวนายกได้รับทราบ ท่านเคยเป็นอดีต ผบ.ทบ.จริงๆ ในแต่ละมุมย่อมมีความแตกต่างกัน แล้วคนเราต้องมีหลายมุม มุมที่ท่านนายกทำงานนั้นจะเป็นมุมที่จริงจังเพราะท่านเป็นคนที่ตั้งใจในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่มีมากมายหลายปัญหา แต่การเมืองนั้นยังมีฝ่ายตรงข้าม เป็นเรื่องผลประโยขน์ ความนิยมทางการเมือง ฉะนั้นเวลามีภาพหลุดที่ท่านนายกฉุนเฉียว ตอบประเด็นผิด ก็ถูกนำมาดิสเครดิตทางการเมือง ตนเองเป็นเพียงจิ้กซอว์ตัวเล็กๆที่ออกมาสะท้อนภาพอีกมุมนึงที่เป็นมุมน่ารักของลุงตู่ แต่ที่ตนเองเอาคลิปมาโพสต์นั้นไม่ใช่เพียงแค่อยากให้เห็นมุมน่ารักของลุงตู่เท่านั้น แต่อยากให้รัฐบาลได้เล็งเห็นการทำหนังละครประวัติศาสตร์อย่างเรื่องบุพเพสันนิวาส โดยเฉพาะตอนจบ คนหยุดดูละครเรื่องนี้ทั้งประเทศ ในกรุงศรีอยุธยาก็มีการจัดแต่งกายย้อนยุค ทำตลาดนัดเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีก ตนเองจึงอยากให้รัฐบาลทำหนังประเภทนี้ขึ้นมาอีก มันจะช่วยในเรื่องของการสร้างความสามัคคี รักชาติ รักสถาบัน ลดความขัดแย้งลงได้

 

การโพสต์คลิปดังกล่าวไม่มีนัยยะทางการเมืองแม้อาจจะมีสื่อหลายท่านถามว่ามีเหตุการเชื่อมโยงทางการเมืองไหมเพราะการโพสต์คลิปเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รังสิมันต์ โรม ได้โพสต์เรื่องการแก้ไขมาตรา112 นั่นเพราะตนเองมีนโยบายอุดมการณ์อย่างแน่ชัดแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112  และตนเองก็เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีจุดยืนในการไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112 เพราะว่าในช่วงที่มีการปลุกระดมในการล้มล้างสถาบันนั้น พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองแรก ที่กล้าบอกว่าให้ทุกคนออกมาแสดงจุดยืน ในการปกป้องพระมหากษัตริย์

เพราะฉะนั้นการโพสตืคลิปนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 แต่เป็นนัยยะให้เห็นความน่ารักของลุงตู่ อย่างที่ พล.อ.ประวิตร ได้พูดถึง เดี่ยว 13 ของโน้ส อุดม แต้พานิชย์ ว่าฟังเป็นเรื่องสนุก แล้วโน้สเองก็วิจารย์ไปทุกพรรคทุกสมัยการเมือง ไม่จำเป็นต้องไปเอาผิดทางคดีแต่อย่างใด ซึ่งมีประชาชนมาคอมเมนต์ในทางบวกมากมาย แสดงให้เห็นว่าคนรักในสิ่งที่ พล.อ.ประวิตร นั้นมีมากมาย แปลว่าขูอมูลที่ประชาชนได้รับจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มีการคลาดเคลื่อนว่าท่านเป็นคนเคร่งเครียด ก้าวร้าวดังข้างต้นที่กล่าว

กรณีที่ พล.อ.ประวิตร ได้พูดถึง เดี่ยว 13 นั้นมีประชาชนได้รับรู้น้อยมากถ้าไม่มีโอกาสสัมผัสอย่างจริงจัง หรือคนวงใน ต้องยอมรับว่าการเมืองไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยก่อนนั้นการรับรู้อยู่ที่สื่อมวลชน โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แต่สมัยนี้การแพร่ข้อมูลข่าวสารจริงเท็จ อยู่ที่โซเชียลมีเดีย ตนเองถามว่าข้อมูลข่าวสารในโลกอินเตอร์เน็ตมีใครเป็นผู้ตรวจสอบว่าจริง หรือ เท็จ เมื่อไม่มีใครตรวจสอบข้อมูลก็ถูกส่งต่อจากฝ่ายตรงข้ามที่หวังดิสเครดิตหวังผลทางการเมือง และคนก็เชื่อกันไปโดยปริยาย ตนเองจึงอยากให้รัฐบาลมีการนำเสนอต่อประชาชน ชี้แจงว่าอันไหนเป็นเฟคนิวส์ และควรจัดการตรวจสอบถึงพวกเฟคนิวส์ที่ให้ข้อมูลเท็จ ให้ร้ายรัฐบาล ต้องมีการปิด เอาออกจากโซชียล

ซึ่งแม้จะมีการสั่งการจาก พล.อ.ประวิตร ไปแล้วตนเองมองว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องไปหาวิธีการจัดการกับเรื่องนี้  และภาพลักษณ์ประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลทางทีมงานต้องช่วยกัน ต้องทำให้แข็งแรงกว่านี้ ตนเองเห็นด้วยกับ นายพยม พรหมเพชร ส.ส.จว.สงขลา ที่แนะนำให้รัฐบาลเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลตลอดจนทีมงานของพรรคถึงการสื่อสารกับพี่น้องประชาชนให้รวดเร็วกว่านี้  โดยท่าน ส.ส.พยมได้มีการเสนอถึง 2 ครั้งในการแก้การประชาสัมพันธ์ของพรรค และรัฐบาลให้มีศักยภาพมากกว่านี้ ซึ่งตนเองคิดว่าท่าน ส.ส.พยม คงต้องนำเอาเรื่องนี้ไปพูดอีกรอบในเวทีการประชุมพรรค ซึ่งอาจจะมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เชื่อว่า ส.ส.พยม ที่สอบได้ที่1 ของส.ส.ในภาคใต้ เองก็คงได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เพราะภาพลักษณ์ของพรรค ของรัฐบาลก็ส่งผลในการหาเสียงหรือทำงานของ ส.ส.ในพรรค ตนเองถึงบอกว่าต้องให้ทางพรรคทั้ง สมาชิก ทั้ง ส.ส.ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพราะการเมืองคือเรื่องการสื่อสารระหว่างพรรคการเมือง รัฐบาล ในการขอโอกาสกับพี่น้องประชาชน

 

ซึ่งหลักธรรมชาติ โฆษกรัฐบาลจะต้องทำการสื่อสารกับ ส.ส.นักการเมืองท้องถิ่น หรือ ประชาชน ว่าวันนี้รัฐบาลทำอะไรบ้าง แล้วมันจะถูกส่งต่อกันไปเอง แต่วันนี้โฆษกรัฐบาลออกมานั่งอ่านข่าว นั่งการคำแถลง วาระการประชุม มันไม่ถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นต้องหาคนที่ย่อยข่าวแล้วนำมาสื่อสารเป็น มาสื่อสารกับประชาชนจะสามารถช่วยรัฐบาลได้เยอะ อย่างในเรื่องของพรรคเราต้องหยิบผลงานของพรรคมาสื่อสาร ว่าพรรคได้เป็นรัฐบาลต้องหยิบยกมาว่าวันนี้มีการดำเนินการอย่างไรเพื่อประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เที่ยวด้วยกัน และอีกมากมาย หรือการแก้ปัญหาน้ำท่วม การแก้ไขการแพร่ระบาดโควิด19 ของพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ต้องมีการหยิบมาสื่อสารให้คนรับรู้ เช่นคนปทุมท่านหนึ่งทำคลิปติ้กต่อก ว่าปี54 น้ำท่วมมาก ปี65น้ำไม่ท่วมเลย

ทุกวันนี้ตนเองไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในพรรคหรือรัฐบาล แต่ตนเองก็ออกมาปกป้องท่าน พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร มาโดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา ไม่ว่าตนเองจะเป็นโฆษกของรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม เพราะสุดท้ายนั้นพรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นของพ่อแม่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ใครที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ต้องมีความรับผิดชอบรู้จักหน้าที่ตนเองว่าทำอย่างไรให้ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ทำงานง่าย ทำอย่างไรให้คะแนนนิยมบวก ทำอย่างไรให้ชาวบ้านเข้าใจ และไม่ว่าภายภาคหน้าตนเองจะได้รับตำแหน่งโฆษกหรือไม่ไม่สำคัญ หากแต่ว่า พล.อ.ประวิตร สั่งมาตนเองก็ต้องทำ หรือไม่ได้สั่งตนเองก็จะทำในส่วนที่ตนเองทำได้

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ