(อ่านแล้ว 45 ครั้ง)
‘ติ๊ก ชิโร่’ ยืนรอมอบตัว รับสารภาพกับพ่อแม่ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต ว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถตู้คันดังกล่าวด้วยตัวเอง พร้อมมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
‘ติ๊ก ชิโร่’ ยืนรอมอบตัว รับสารภาพกับพ่อแม่ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต
ล่าสุด (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.ปฏิญญา จิรัญดร รอง สว. สน.คันนายาว ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ช่วงสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี ขณะที่บริเวณด้านล่างถนนสุขาภิบาล 5 จากความสูงบนสะพานประมาณ 10 เมตร พบร่างของนายจักรภัคร อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 อาการสาหัส อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เป็นพี่น้องกัน ทั้งสองซ้อนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีดำ โดยมี นายจักรภัคร เป็นคนขี่ ถูกรถคู่กรณีชนเสียหายพังทั้งคัน ในที่เกิดเหตุบนสะพาน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถตู้คู่กรณีเป็นรถตู้ฮุนได สีดำ มี นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ “ติ๊ก ชิโร่” อายุ 63 ปี นักร้องชื่อดัง เจ้าของผลงานเพลง ออกมาเต้น, มาจอยกัน, และรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เป็นผู้ขับขี่ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยรถตู้คู่กรณี มีสภาพกันชนและไฟหน้าด้านซ้ายแตก ยุบพังเสียหาย
จากการสอบสวน น.ส.จิณห์นิภา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวคนกลางของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ขณะตนเดินทางมากับพี่สาวและน้องชาย ขี่รถจักรยานยนต์ นั่งซ้อนกันมา 3 คน โดยตนนั่งกลาง ขณะรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนสะพาน ขวดน้ำเปล่าของตนได้หล่นตกลงไปบนถนน จึงบอกให้นายจักรภัคร ที่เป็นคนขี่หยุดรถ โดยจอดรถไว้ริมสะพาน ตนเดินลงไปเก็บขวดน้ำ ระหว่างนั้นรถตู้คู่กรณี ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่น้องชายและพี่สาว นั่งรออยู่อย่างรุนแรง จนรถกระเด็นออกไป พี่สาวเสียชีวิตบนสะพาน ขณะที่น้องชาย ร่างกระเด็นตกลงไปถนนด้านล่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางบิดาและมารดาของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ทางด้าน ติ๊ก ได้เดินตรงเข้าไปขอโทษและยอมรับสารภาพกับบิดามารดาของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถตู้คันดังกล่าวด้วยตัวเอง พร้อมมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ความร่วมมือทุกอย่าง โดยไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น เพราะอายุ 63 ปี ไม่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเช่นนี้มาก่อน โดยทางมารดาของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ เข้าไปต่อว่า ติ๊ก ว่าเหตุใดถึงขับรถเร็ว ทำให้ลูกสาวและลูกชายเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ทางติ๊ก ได้เดินเข้าไปกราบขอขมา บริเวณจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต พร้อมกราบขอขมาที่ได้ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มอบหมายให้มูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมนำตัว ติ๊ก ไปสอบสวนที่ สน.คันนายาว และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ขณะที่อาการของนายจักรภัคร ยังอยู่ในอาการสาหัส แพทย์โรงพยาบาลภูมิพล ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด