ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
ตำรวจนครปฐมสั่งสอบ กลุ่มมิจฉาชีพเจ้าของบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด ร่วมตุ๋นบริษัทชื่อดังซื้อถุงมือยางล้านกล่องจากเกาหลี สูญเงินกว่า สามร้อยล้านบาท
(อ่านแล้ว 446 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันนี้ 6 ต.ค.2565 เวลา 13.00 น. ที่ สภ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม นางณัฐชยา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ นก ชาว อ.พาน จว.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด พร้อมพวกได้เดินทางพบ ร.ต.อ.ชัยยุทธ อินเสน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี ร่วมกันฉ้อโกง ที่มี บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด  เป็นเจ้าทุกข์มาร้องให้ดำเนินคดี

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายประสาน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด  ได้แนะนำให้ ตัวแทนของบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้รู้จักกับ นางสาวศิริลักษณ์ หรือ คุณหมู และนางณัฐชยา  หรือคุณนก ในฐานะเจ้าของบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด ซึ่งอ้างว่าเป็นบริษัทนายหน้าที่น่าเชื่อถือสามารถจัดหาถุงมือยางที่นำมาจาก บริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED ) ได้จำนวนมากตามความต้องการของบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด เป็นจำนวน  1 ล้าน กล่อง และสามารถส่งมอบได้ในทันที โดยบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED )

ซึ่งทางกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า บริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนพาณิชย์ อยู่ที่ประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือ จนกระทั่ง บริษัทการ์เดียนโกลฟส์ จำกัด หรือผู้กล่าวหา หลงเชื่อ เข้าทำสัญญาซื้อขายและโอนเงินไป จำนวน 301,010,200 บาท แต่พอถึงกำหนดส่งมอบสินค้า กลุ่มผู้ต้องหาก็บ่ายเบี่ยงอ้างเรื่องขั้นตอนทางศุลกากรระหว่าประเทศ และเมื่อถึงการส่งมอบสินค้าก็ปรากฏว่า สินค้าไม่ได้มาตรฐาน และไม่ครบจำนวนตามที่ตกลงไว้ทำให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ซึ่ง ร.ต.อ.ชัยยุทธ อินเสน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้ออกหมายเรียกในวันที่ 5 ก.ย.2565 ให้ผู้ต้องหามาพบในวันที่ 22 ก.ย.2565 ซึ่งก็ถูกผลัดมาจนถึงวัน ที่ 6 ต.ค.2565

ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2563 บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด นายประสาน (ขอสงวนนามสกุล)ในฐานะที่ปรึกษาของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ได้แนะนำ ให้รู้จักกับกรรมการของบริษัทกลัฟเซเว่น จำกัด คือ นางณัฐชยา จนได้ซื้อขายถุงมือกันประมาณ 1-2 ครั้ง เป็นจำนวน หลายหมื่นกล่อง ก่อนจะชักชวนให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ซื้อถุงมือแบรนด์ V GLOVE จำนวน 1,000,000 กล่อง ซึ่งบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด อ้างว่า ซื้อถุงมือจำนวนดังกล่าวจาก บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือบริษัทหนึ่ง ทางบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด สนใจ และอยากไปดูสินค้าด้วยตนเองที่บริษัทดังกล่าว โดยนางณัฐชยา หรือนก และนางสาวสิริลักษณ์ แจ้งว่าบริษัทดังกล่าวมิได้อยู่ที่ประเทศไทย แต่อยู่ที่ประเทศเกาหลีมีชื่อว่า บริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED ) มี MR.Thomas Jun-beom Park เป็นกรรมการผู้จัดการ แต่มีตัวแทนเป็นคนสัญชาติเกาหลี อยู่ในประเทศไทย คือ Mr.Seowon Chol แต่จะทำธุรกรรม นามบริษัท SIS TRAED จำกัด โดยมี Mr.Seowon Chol กรรมการ ซึ่งสามารถเดินทางไปดูได้แต่ติดปัญหาว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงระบาดของไวรัส โควิด-19 จึงไม่สามารถที่ส่งตัวแทนไปยังประเทศเกาหลีเพื่อตรวจสอบดูสินค้าทั้งหมดด้วยตัวเอง

 

 

แต่ว่านางณัฐชยา หรือนก มีสถานะเป็นเจ้าของบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด ซึ่งเคยซื้อขายถุงมือกันก่อนหน้านี้เป็นจำนวนมาก ได้กล่าวว่า สินค้าดังกล่าวสามารถ “ซื้อผ่าน Mr.Seowon Chol ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายวัตถุน้ำยาง ทำถุงมือให้กับบริษัทหรือโรงงานในประเทศไทย” อีกทั้งบริษัท กลัฟเซเว่น จำกัด ได้เคยซื้อขายถุงมือยางจำนวนมากกับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด มาแล้ว เป็นจำนวน 10,000 กล่องมากก่อนหน้านี้ และอ้างว่าถุงมือที่เคยขายให้ก็อยู่ภายใต้แบรนด์ V GLOVE ซื้อผ่านบริษัท SIS TRAED จำกัด โดยมี Mr.Seowon Chol ทำให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด เชื่อและตกลงซื้อขายกับบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED )

ต่อมาเดือน กันยายน 2563 ทีมนายหน้า จึงได้เริ่มให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด  เข้าตรวจสัญญาซื้อขาย ที่จะทำกับบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ภายใต้ตัวแทนในประเทศไทยคือ Mr.Seowon Chol ว่า บริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด มีโปรไฟล์น่าเชื่อถือ และมีสินค้าพร้อมส่งตามที่เคยกล่าวไว้ข้างต้น1,000,000 กล่อง ให้แก่บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด  ได้ทันที ในราคาต่อหน่วยคือ 95.00 ดอลลาร์สหรัฐ  เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 9,500,000 รวมเป็นเงิน 9,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ   ราคาสินค้ามูลค่ารวมของสัญญาจะไม่เปลี่ยนแปลงในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงมูลค่ารวมของข้อตกลงจะรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและต้นทุนบรรจุภัณฑ์ มูลค่ารวมของข้อตกลง จำนวนเงิน เก้าล้านห้าแสนเหรียญสหรัฐ เป็นจำนวนเงินบาทซึ่งมีเงื่อนไขระบุว่าต้องชำระทั้งหมดหมดเต็มวงเงินเพื่อที่จะได้สินค้าทั้งหมดตามคำต้องการ  หากไม่ชำระเกรงว่าบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED จะไม่สามารถที่จะส่งสินค้าให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้ทั้งหมด เพราะไม่แน่ใจว่าบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จะชำระเงินครบถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้นายประสาน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาได้ช่วยแนะนำ จน บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด หลงเชื่อและชำระเงินค้าสินค้าไปตามคำลวงของบรรดานายหน้าทั้งชาวไทย และชาวเกาหลี

แต่เมื่อถึงกำหนดการส่งมอบสินค้าตามสัญญา บ่ายเบี่ยงไม่ยอมส่งสินค้าให้โดยอ้างว่าสินค้าดังกล่าวติดเงื่อนไขทางศุลกากรในการส่งมอบสินค้าเนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โควิด19 จึงไม่อาจส่งสินค้าได้ตามกำหนดและบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดซึ่งต่อมาเดือน กรกฎาคม 2564 ได้มีการส่งสินค้ามาให้แก่บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ซึ่งเป็นถุงมือจากบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด จำนวนเพียง 300,000 กล่องเท่านั้น และจากการตรวจรับสินค้าดังกล่าวพบว่าถุงมือดังกล่าวมีลักษณะเอาสินค้าไม่ได้มาตรฐานปะปนมากับสินค้าที่มีคุณภาพมาส่งมอบ

ต่อมา บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้พยามติดต่อสอบถามเพื่อให้บริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องสินค้าหลวงขายที่ปะปนมากับสินค้าในล็อต 300,000 กล่องนั้นและสอบถามถึงสินค้าจำนวนที่ยังขาดส่งอีกจำนวน 700,000 กล่องปรากฏว่าบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED ไม่มีตอบใดๆทั้งสิ้น

เมื่อ กรรมการบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ได้มอบหมายให้นายประสาน (ที่ปรึกษา),นางณัฐชยา หรือนก ,นางสาวสิริลักษณ์ และMr.Seowon Chol ดำเนินการประสานให้แต่ปรากฏว่าบุคคลทั้งสามกลับนิ่งเฉยและไม่ดำเนินการใดๆ โดยการกระทำดังกล่าวของบุคคลดังกล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด จึงเชื่อว่าเป็นการรวมกันหลอกลวงโดยแบ่งหน้าที่กันเป็นกระบวนการของนางณัฐชยา หรือนก ,นางสาวสิริลักษณ์ และMr.Seowon Chol และบริษัท  กลัฟเซเว่น จำกัด ,บริษัท SIS TRAED จำกัด และบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED ว่าบริษัท รีโวลุส ไนน์ จำกัด ( REVOLUS NINE COMPANY LIMITED) มีสินค้าจำนวน 1,000,000 กล่องนั้น เป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่อคำลวง และสูญเงินในการสั่งสินค้าไปจำนวน จำนวน 301,010,200 บาท อีกทั้งสินค้าที่ส่งมายังไม่ได้คุณภาพตามที่ได้มีการตกลงกัน ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนล้วนแต่ได้ประโยชน์ทรัพย์สินจากเรื่องนี้ คือได้ค่านายหน้า ทั้งที่นายประสาน ในฐานะที่ปรึกษาก็ได้ประโยชน์ด้วย (ซึ่งเป็นการทราบภายหลังจากที่ได้แจ้งความดำเนินคดี) แสดงว่านายประสาน เป็นผู้ร่วมกระบวนการฉ้อโกง โดยแบ่งหน้าที่กันทำ และเป็น Keyman หลักเพื่อจูงใจปกปิดข้อเท็จจริง ให้เกิดการหลอกลวงจนบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัดหลงเชื่อตามเหตุข้างต้น เกิดความเสียหายเป็นจำนวนเงินดังข้างต้น

 

 

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ