วันที่ 31 มี.ค. นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ประกาศแผนเสนอชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ 7 รายการ และมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 3 รายการ ต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO)

มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ 7 รายการที่จะเสนอ ได้แก่ อดีตเรือนจำ M-13, พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คุกตวลเสลงและศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทุ่งสังหารเจิงเอก, วัดบันทายฉมาร์, โบราณสถานพนมพระรีชทรอป, พระขรรค์กำปงสะวาย, วัดเบงเมเลีย และอุทยานประวัติศาสตร์พนมกุเลน

AFP/PENNY STEPHENS/ASEAN-AUSTRALIA SPECIAL SUMMIT 2024

ส่วนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 3 รายการ ได้แก่ สงกรานต์ของกัมพูชา (Cambodian Songkran), กรอแม (Krama) และประเพณีการแต่งงานแบบเขมร

ฮุน มาเนต กล่าวว่า “เราจะเสนอชื่อสิ่งเหล่านี้เข้าเป็นมรดกของยูเนสโก เพื่อให้ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของเราได้รับการยอมรับและอนุรักษ์ในระดับสากล”

เขาเสริมว่า โดยปกติแล้ว จะใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการยื่นเรื่องและพิจารณาทรัพย์สินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก

นายกฯ กัมพูชาระบุว่า จะส่งเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนสงกรานต์กัมพูชาในรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกในปี 2025 และคาดว่าจะได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2026

สงกรานต์เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤตสำหรับเรียกปีใหม่ตามปฏิทินทางพุทธศาสนา ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงกัมพูชา ไทย ลาว และเมียนมา

ฮุน มาเน็ต กล่าวว่า จนถึงปัจจุบัน กัมพูชามีมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ 4 รายการ และมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 6 รายการที่ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ที่ได้รับการรับรองก่อนหน้านี้คือ อุทยานโบราณสถานอังกอร์, วัดพระวิหาร, เขตวัดสมโบร์ไพรกุก และแหล่งโบราณคดีเกาะแกร์

ในขณะที่มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ระบุไว้คือ การแสดงราชสำนักกัมพูชา (Royal Ballet), สะบักธม (Sbek Thom) หรือหุ่นกระบอกเงาเขมร, เกมชักเย่อ, จะเป็ยฎ็องแวง (Chapei Dang Veng) พิณคอยาวสองสาย, ละครโขน (Lkhon Khol Wat Svay Andet) และมวยเขมร (Kun Lbokator)