ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
สมาคมผู้สื่อข่าวฯ พาผู้โดนหลอกให้เช่าหลักทรัพย์ปลอม เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออธิบดี กรมการข้าว
(อ่านแล้ว 1076 ครั้ง)
Share on Google+

วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ดร.ชยันต์พิสิฐ สมานสวน ได้นำสมยงค์ เชื้อบัญฑิต เข้าร้องเรียน ขอความอนุเคราะห์ให้ตรวจสอบกรณีการดำเนินคดีต่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.บัญฑิต กรุ๊ป และนายสมยงค์ ต่อ กรมการข้าว เนื่องจากนายบัญฑิต ถูกหลอกให้เช่าหลักประกันงานปลอม ดร.ชยันต์พิสิฐ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ กล่าวว่านายสมยงค์ เชื้อบัณฑิต ซึ่งเป็นผู้จัดการของ หจก. ต.บัณฑิตกรุ๊ป จำกัด ด้วยได้เข้ามาร้องเรียนร้องทุกข์ต่อสมาคมผู้สื่อข่าวฯ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูก กรมการข้าว แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน นายบัญฑิต กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2564 ตนเองได้ตกลงทำงานร่วมกันกับ หจก. พี แอนด์ พีฯ โดยการทำ JV ร่วมกันและแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้โดยฝ่าย หจก. พี แอนด์ พีฯ มีหน้าที่เป็นดำเนินการด้านเอกสารในเสนอราคาระบบ e-bidding และเป็นผู้ดำเนินการทำสัญญาจ้าง ฝ่าย หจก.ต.บัณฑิตกรุ๊ป เป็นผู้ดำเนินการออกหลักประกันในการยื่นข้อเสนอ ราคา และออกหลักประกันสัญญาจ้างให้กับหน่วยงาน เมื่อชนะการเสนอราคา ต่อมาในเดือนกรกฏคม 2564 จึงได้ร่วมกันไปดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้างอาคารปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธ์ข้าว ของกรมการข้าว ซึ่งฝ่าย หจก.ต.บัณฑิตกรุ๊ป ต้องเป็นผู้จัดหาหลักประกันประกวดราคางาน เนื่องจากช่วงระยะเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วงของการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 สถานะทางการเงินของ หจก. ต.บัณฑิตกรุ๊ป ขาดสภาพคล่องจึงไม่มีหลักประกันให้กับออกให้กับ กรมการข้าว นายสมยงค์ จึงได้สอบถามกับคนที่รู้จักว่า จะหาเช่าหลักประกันได้ที่ไหน ซึ้งได้รับคำแนะว่า จะช่วยติดต่อกับบุคคลที่มีหลักทรัพย์หลักประกันหรือวงเงิน เครดิตไลน์ธนาคาร ที่สามารถเช่าเพื่อนำมาเป็นหลักประกันงานของภาครัฐและภาคเอกชนได้ ซึ่งตนเองจึงได้บอกไปว่าต้องการเช่าหลักประกันจำนวน 3,410,645 บาท ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 และได้รับแจ้งจากผู้ประสานงานว่าทางผู้ให้เช่าคิดค่าธรรมเนียมการเช่าจำนวน 61,000 บาท ตนเองจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้

ไม่มีคำอธิบาย

ไม่มีคำอธิบาย

ต่อมาช่วงเย็นในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 16:00 น. ตัวแทนฝ่ายผู้ให้เช่าได้ส่งสำเนาหลักประกัน เป็นแคชเชียร์เช็ค ธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน มาให้ทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ตนเองจึงได้ส่งให้ทาง หจก. พี แอนด์ พีฯ ซึ่งได้นำสำเนาแคชเชียร์เช็คฉบับดังกล่าว ใช้เป็นหลักประกันประกวดราคางานก่อสร้างอาคารปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธ์ข้าว ของกรมการข้าว ทาง e-bidding ต่อมากรมการข้าว ได้แจ้งให้ หจก. พี แอนด์ พีฯ ให้ส่งเอกสารสำคัญของคู่ค้า JV และหลักประกันการประกวดราคาแคชเชียร์เช็คฉบับจริงส่งให้ กรมการข้าว ภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564 เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ตนเองจึงได้แจ้งให้ผู้ให้เช่าหลักประกันทราบ เพื่อขอให้ส่งแคชเชียร์เช็คฉบับจริง ให้กรมการข้าว แต่ทางฝ่ายผู้ให้เช่าแจ้งว่าให้ตนเองจัดส่งเอกสารสำคัญของคู่ค้า JV ไปให้กับฝ่ายผู้ให้เช่า ซึ่งจะมีคนของของฝ่ายผู้ให้เช่าหลักประกันมารอรับเอกสารอยู่ที่ท่ารถโดยสารสถานีขนส่งหมอชิต(บขส.) กรุงเทพมหานคร และคนของทางฝ่ายผู้ให้เช่าหลักประกัน จะเป็นผู้นำหลักประกันแคชเชียร์เช็คฉบับจริง ธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน ไปประกอบกับเอกสารสำคัญของคู่ค้า JV และจะเป็นผู้นำส่งให้กับ กรมการข้าว ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 7 กรกฏาคม 2564 ตนเองจึงได้จัดส่งเอกสารสำคัญของคู่ค้า JV ไปทางรถโดยสารประจำทาง(บขส.) จากอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มาที่สถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีคนของฝ่ายผู้ให้เช่าหลักประกันรอรับอยู่ และได้นำเอกสารสำคัญของคู่ค้า JV ไปประกอบกับหลักประกัน แคชเชียร์เช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาพหลโยธิน ฉบับจริง และได้นำส่งเอกสารดังกล่าวต่อ กรมการข้าว แทนตนเอง ต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ตนเองได้รับหนังสือจาก กรมการข้าว แจ้งว่าให้ชี้แจงเหตุผลข้อเท็จจริงและยืนเอกสารประกอบกรณีกระทำการอันเป็นเท็จอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทำการโดยไม่สุจริต เรื่องดังกล่าวทำให้เองตกใจเป็นอย่างมาก จึงได้รีบโทรศัพท์สอบถามฝ่ายผู้ให้เช่าหลักประกันแต่ติดต่อไม่ได้ ต่อมาวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ตนเองจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และในวันที่ 27 กรกฏาคม 2564 ตนเองจึงได้ทำหนังสือชี้แจงต่ออธิบดี กรมการข้าว ว่าหลักประกันปลอมดังกล่าวตนเองได้เช่ามาจากบุคคลอื่น ไม่ได้เป็นคนทำปลอมขึ้นมา ต่อมาตนเองได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางเขน ซึ่งตนเองได้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 1 กันยายน 2566 และได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพนักงานสอบสวน และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ต่อมาตนเองจึงได้ขอร้องเรียนร้องทุกข์ต่อ สมาคมผู้สื่อข่าวฯ เพื่อขอให้ดำเนินการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อตนเอง ดร.ชยันต์พิสิฐ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ กล่าวว่าเมื่อนายสมยงค์ ได้มาร้องเรียนร้องทุกข์ต่อสมาคมฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวฯ ขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งจากการสอบถามนายสมยงค์ ผู้ร้องเรียนร้องทุกข์ และจากเอกสารของทางราชการและเอกสารต่างๆ ที่ผู้ร้องเรียนร้องทุกข์ นำมาประกอบ การร้องเรียนร้องทุกข์ และตามบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งชี้เห็นว่านายสมยงค์ เชื้อบัญฑิต และห้างหุ้นส่วนจำกัด ต.บัญฑิต กรุ๊ป เป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง จากผู้ให้เช่าหลักประกัน และไม่มีเจตนาในการนำ แคชเชียร์เช็คหลักประกันปลอม ไปยื่นต่อกรมการข้าว ตนเองจึงได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง อธิบดี กรมการข้าว ให้พิจารณาหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ทางสมาคผู้สื่อข่าวฯ นำส่งให้เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอ เพื่อให้กรมการข้าว ถอนคำร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสมยงค์ เชื้อบัญฑิต และ หจก. ต.บัญฑิต กรุ๊ป ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อนายสมยงค์ เชื้อบัญฑิต ตามหลักธรรมาภิบาล ข่าว ต้อม สิงห์๑ ภาพ เชษ โลโล

ไม่มีคำอธิบาย

ไม่มีคำอธิบาย

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ