ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
สมาคมผู้สื่อข่าวฯ
(อ่านแล้ว 1529 ครั้ง)
Share on Google+

 ไม่มีคำอธิบาย

สมาคมผู้สื่อข่าวฯ นำนายเลอศักดิ์และพวก เข้าพบพันตำรวจเอกประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีต่อขบวนการกลุ่มบุคคลที่หลอกลวง ให้นำเงินไปเทรด และจ่ายค่าธรรมเนียม ทำให้สูญเงินว่า 6,000,000 บาท และประชาชนทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,000,000,000 ล้านบาท

 

ดร.ชยันต์พิสิฐ สมานสวน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ กล่าวว่าสมาคมผู้สื่อข่าวฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์จาก นายเลอศักดิ์ มโนธรรมและพวก มากว่า 3 เดือนแล้วว่า ได้ถูกขบวนการกลุ่มบุคคลร่วมกันหลอกลวงฉ้อโกงทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก สมาคมผู้สื่อข่าวฯ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อสอบสวนสืบสวนข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนนี้มาโดยตลอด และจากการสอบสวนสืบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริงจากบุคคลอื่นๆ ที่เกียวข้อง และจากเอกสารหลักฐานต่างๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นขบวนการกลุ่มบุคคลหลอกลวงซึ่งได้วางแผนร่วมกันเพื่อหลอกลวงประชาชนอย่างเป็นขบวนการ จึงนำนายเลอศักดิ์ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

 

 

 

ไม่มีคำอธิบาย

 

นายเลอศักดิ์ กล่าวว่าเมื่อปี พ.ศ.2560 นางอรุณี มโนธรรม มารดาของตนเอง ได้ถูกนายอินทัช มาชักชวนให้เข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มโครงการเทรดเงินธนชาติ เพื่อชาติ ของนางนันท์นิชา โดยแจ้งว่าโครงการดังกล่าวเป็นการเทรดเงินระบบโปรแกรมต่างประเทศ เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนที่ต้องการ และต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม และผู้ที่เป็นสมาชิกจะต้องนำเงินไปรวมกันเพื่อนำไปเทรดเงินระบบโปรแกรมต่างประเทศ มีประชาชนหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกหลายพันคน โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ตั้งกติกาว่า หากสมาชิกคนใดนำเงินมาร่วมเทรด จำนวนเงิน 500 บาท จะได้รับเงินผลตอบแทนจากการเทรด จำนวน 1,000,000 บาท และหากสมาชิกคนใด หรือมีสมาชิกรวมกันเป็นกลุ่ม นำเงินจำนวน 400,000 บาท มาร่วมในการเทรด จะได้รับเงินผลตอบแทนจากการเทรดเงินเป็นจำนวน 500,000,000 บาท และหลอกว่าในการเทรดเงินในแต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งหากสมาชิกรายใดนำเงินมาร่วมในการเทรด และลงเงินตามจำนวนเงินที่แจ้ง จะได้รับเงินผลตอบแทนจากการเทรด ตามที่แจ้งอย่างแน่นอน

นายเลอศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้พูดจาหว่านล้อมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีนางนันท์นิชา เป็นหัวหน้าสายโครงการ และมีนายวิชิต เป็นหัวหน้ากลุ่มสายโครงการ ได้อ้างว่าตนเองเป็นบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจ จากประธานโครงการเทรดเงินธนชาติ เพื่อชาติ ชื่อนางกนิษฐา ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินลงทุนของสมาชิก ส่งไปให้นางกันยารัตน์ ซึ่งอ้างตนเองเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เทรดเงิน และในเวลาต่อมากลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่านางกันยารัตน์ ได้รับตั๋วเงินจากการเทรดเงินแล้ว อยู่ในระหว่างการขอเบิกเงินจากธนาคารกสิกรไทย สาขาหน้าเมือง (ขอนแก่น) เป็นจำนวน 772,800,000,000,000,000 บาท และได้มอบหมายให้นางกนิษฐา นายวิชิต และนางนันท์นิชา นำเงินจำนวนดังกล่าวมาจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเป็นหนี้ทั่วประเทศ และได้นำเอกสารภาพถ่ายใบขอเบิกเงิน และเอกสารภาพถ่ายการติดต่อประสานงานกับธนาคาร มาโชว์ให้สมาชิกในแอปพลิเคชั่นไลน์กลุ่มสมาชิกดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้สมาชิกจนแม่และตนเองเชื่อ และในช่วงประมาณระหว่าง พ.ศ.2560-2562 แม่และตนเอง จึงได้เริ่มนำเงินไปลงทุนในการเทรดระบบโปรแกรมต่างประเทศ ตามที่โดนหลอกใน จนสูญเสียเงินประมาณ 3,500,000 บาท

 

เมื่อแม่และตนเอง จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่เคยได้รับเงินตอบแทนจากการเทรดเงินในระบบโปรแกรมต่างประเทศ ตามที่บุคคลกลุ่มนี้ได้กล่าวอ้างโฆษณา และเมื่อถึงเวลากำหนดนัดวันจ่ายเงินปันผล ก็จะมีการอ้างเหตุผลต่างๆ ว่าไม่สามารถเบิกเงินมาจ่ายสมาชิกได้ และแจ้งเลื่อนจ่ายเงินผลตอบแทนจากการเทรด ออกไปอีก และต่อมาก็เรียกเก็บเงินอีกเป็นแบบนี้มาโดยตลอด จนแม่ของตนเอง เกิดอาการเครียดและได้ล้มป่วยลงเพราะได้นำเงินเก็บของครอบครัวมาจ่ายให้กลับกลุ่มบุคคลดังกล่าวจนเงินหมด จนอาการป่วยได้ลุกลามกลายเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ระยะสุดท้ายในปัจจุบัน เมื่อแม่ตนเองป่วยและมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ตนเองจึงได้เข้ามารับช่วงเพื่อติดตามเงิน ที่จะได้รับจากเงินปันผลจากการเทรดเงินระบบโปรแกรมต่างประเทศ ตามที่กลุ่มบุคคลได้กล่าวได้อ้างหลอกลวง ต่อมานางนันท์นิชา มิถุนายน 2562 ได้แจ้งให้ตนเอง โอนเงินเพื่อจ่ายค่ายธรรมเนียมเทรดเงิน สามครั้ง เป็นจำนวน

139,600 บาท และในปีต่อมาจนถึงปัจจุบัน 2566 โดนหลอกให้โอนเงินไปกว่า 6,000,000 บาท

 

ไม่มีคำอธิบาย

 

ดร.ชยันต์พิสิฐ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ กล่าวว่าพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการดังกล่าว ได้ทำการวางแผนหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนเป็นระบบ อย่างเป็นขบวนการ อ้างว่าพวกตนเองมีความสามารถการเทรดเงินด้วยระบบโปรแกรมต่างประเทศ ด้วยการนำภาพถ่ายของกลุ่มตนเอง ที่ไปประชุมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารมาโชว์ให้ประชาชนดูเพื่อสร้างน่าเชื่อถือ เมื่อประชาชนหลงเชื่อจึงได้หลอกให้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม แล้วชักชวนหลอกให้นำเงินมาลงทุนร่วมกันเทรดระบบโปรแกรมต่างประเทศ และได้ตั้งกติกาว่า หากสมาชิกคนใดนำเงินมาร่วมเทรด จะได้เป็นจำนวนเป็นพันเท่า จนมีประชาชนหลงเชื่อมาสมัครเป็นสมาชิกจำนวนหลายพันคน ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก พอเวลานานไปสมาชิกไม่ได้รับเงินตามหลอกไว้ ขบวนการบุคคลกลุ่มนี้ ก็ทำการปลอมแปลงเอกสารแล้วนำมาโชว์ อ้างว่าใกล้จะได้เงินแล้ว เงินจะออกแล้ว แล้วก็หลอกเก็บเงินอีก และในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2565-2566 ยังได้ออกเอกสารมาหลอกอีก เรื่อง กรอบการรับใช้เงินตามกฏหมายฯ และยังได้นำเอกสารใบแจ้งถอนเงินธนาคารกรุงเทพปลอม โดยมีชื่อของนายวิชิต และชื่อนางนันท์นิชา เป็นเงินจำนวนมากถึง 5,000,000,000 บาท มาโชว์ให้สมาชิกดู พฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้ยังได้นัดหมายให้สมาชิกระดับหัวหน้า รวมทั้งนายเลอศักดิ์ กับพวกเข้าประชุมไลน์กลุ่ม ในวันจันทร์-ศุกร์ และพูดโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อถือว่าจะได้เงินจริง และเนื้อหาการประชุมก็จะแจ้งเหตุผลให้สมาชิกทราบถึงสาเหตุการเลื่อนจ่ายเงินให้กับสมาชิก โดยการอ้างเหตุผลต่างๆ นาๆ แล้วส่งรูปถ่ายและเอกสารปลอมต่างๆ มาทางแอปพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม อ้างว่าได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเตรียมเบิกเงินนำมาจ่ายให้กับสมาชิก ในเร็ววันนี้

 

ไม่มีคำอธิบาย

 

ดร.ชยันต์พิสิฐ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ กล่าวต่ออีกว่า พฤติกรรมการหลอกลวงของขบวนการบุคคลดังกล่าว กล้าทำเอกสารใบถอนเบิกเงินธนาคารปลอม และนำภาพการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร นำมาโชว์ในแอปพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม ให้สมาชิกดูและอ้างว่ากลุ่มของพวกตนเองได้รับแบ่งเงินมาแล้ว จึงทำการขอถอนเงินจากธนาคารแล้ว แต่ยังถอนเงินไม่ได้ อ้างว่าต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการเบิกเงิน และต้องนำเงินไปจ่ายให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนจึงจะเบิกเงินได้ แล้วเรียกเก็บเงินสมาชิก หลังจากสมาชิกและนายเลอศักดิ์ กับพวก หลงเชื่อจ่ายเงินเพื่อนำไปดำเนินการตามที่อ้าง แต่กลับไม่ได้รับเงินปันผล เมื่อถึงกำหนดวันเวลาที่แจ้งว่าจะได้รับเงินก็แจ้งเลื่อนการจ่ายเงินปันผลออกไปอีก และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่ง-สองอาทิตย์ ก็จะมีการแจ้งข่าวดีกับสมาชิกว่าเงินปันผลออก จะเบิกเงินจากธนาคารได้ตามกำหนดเวลาที่แจ้งใหม่ และได้ทำการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมจากสมาชิกใหม่ เป็นพฤติกรรมแบบเดิมๆ ที่กลุ่มบุคคลขบวนการหลอกลวงนี้ นำมาหลอกเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี ทำให้ประชาชนเดือดร้อนสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ที่ต้องกู้หนี้จากบุคคลอื่นหรือขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับกลุ่มขบวนการหลอกลวงดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเป็นวงกว้างทั่วประเทศ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแสนสาหัส ทำให้นายเลอศักดิ์ กับพวก สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มขบวนการหลอกลวงแบบนี้นะครับ มันไม่มีเงินจริงหรอกครับ ถ้ามันมีเงินจริงมันคงเบิกออกมาใช้แล้ว มันไม่มาหลอกเอาเงินจากพี่น้องประชาชนทุกอาทิตย์ทุกเดือนแบบนี้หรอกครับ การที่อ้างว่าให้นำเงินจำนวน 500 บาท มาลงทุนจะได้รับเงินผลตอบแทนจากการเทรด จำนวน 1,000,000 บาท และหากสมาชิกคนใด หรือมีสมาชิกรวมกันเป็นกลุ่ม นำเงินจำนวน 400,000 บาท (สี่แสนบาท) มาร่วมในการเทรด จะได้รับเงินผลตอบแทนจากการเทรดเงินเป็นจำนวน 500,000,000 บาท ไม่มีรื่องจริงหรอกครับ ลองคิดและใช้สติคิดดูสักนิดครับ ว่าจะมีใครให้เงินเราได้แบบนั้น คนที่บอกว่าจะให้เงินยังมาหลอกเอาเงินเราอยู่ ทุกอาทิตย์ทุกเดือนเลย และหากมีตั๋วเงินฝากเข้าธนาคารจริง เงินค่าธรรมเนียมธนาคารเขาหักได้เลยครับ ไม่ต้องหาเงินไปจ่ายตามที่พวกนี้กล่าวอ้างครับ หรือหากมีเงินจริงๆ หน่วยงานต่างๆ ตามที่กลุ่มบุคคลนี้อ้างว่าต้องนำเงินไปจ่ายให้ก่อนถึงจะอนุมัติให้เบิกเงิน ก็ไม่จริงครับ หากคุณมีเงินจริงและถูกต้องตามกฏหมายเขาไม่ห้ามเบิกหรอกครับ บุคคลพวกนี้มันก็จะพยายามหาเหตุผลต่างๆ นาๆ มาอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงครับ ในกรุงเทพฯ ก็มีครับ มีเซียนพระใหญ่คนหนึ่ง ชื่อคำต้นว่า ศ.หลงเชื่อขบวนการหลอกลวงแบบนี้ วิ่งไปหาหยิบยึมเงินบุคคลอื่นที่เขาเชื่อถือตนเองหลายคน น่าจะหลายล้านบาท โกหกคนที่ให้ยืมว่าจะนำไปซื้อพระมาปล่อย จะคืนเงินให้ไม่เกินอาทิตย์ จะสามปีอยู่แล้วยังไม่ได้คืนเงินที่ยืมเขามาเลยครับ ทำให้ต้องคอยหลบคนที่เขาตามทวงหนี้ ต้องหนีหัวซุกหัวชุนจนไม่มีที่จะอยู่ ขบวนการหลอกลวงคนกลุ่มนี้ก็มารูปแบบเดียวกัน อ้างว่าเดียวก็จะได้รับเงินแล้ววันจันทร์แน่นอน พอถึงวันจันทร์ตามกำหนดนัด ก็อ้างว่าติดตรงนั้นตรงนี้บอกว่าเป็นวันศุกร์แน่นอน พอถึงกำหนดนัดก็อ้างโนนอ้างนี้เป็นแบบนี้มา 3 ปีกว่า คนเหล่านี้ก็ยังเชื่อว่าจะได้เงิน พูดกันตรงๆ ก็เป็นเพราะความโลภครับ ขบวนการพวกนี้มันถึงหลอกคนได้มาเป็นเวลายาวนานหลายปี มันไม่มีจริงหรอกครับเสียเงินเท่านั้นเท่านี้แล้วจะได้เงินกลับมาเป็นรัอยเท่าพันเท่า ทางสมาคมผู้สื่อข่าวฯ จะติดตามเรื่องแบบนี้ให้ถึงที่สุด ขบวนการหลอกลวงบุคคลคนเหล่านี้ต้องได้รับกรรมที่ก่อขึ้น บางคนโดนหลอกจนหมดเนื้อหมดตัว หรือบางคนโดนที่หลอกแล้วได้แต่เจ็บใจ ทำอะไรพวกหลอกลวงนี้ไม่ได้ทำให้ฆ่าตัวตายไปแล้วก็มี ฝากไปถึงขบวนการบุคคลพวกนี้ด้วยว่าพวกคุณยังมีจิตรสำนึกของความเป็นคนอยู่หรือไม่ คุณหลอกเอาเงินคนอื่นไปให้เมีย ให้ผัว ให้ลูกพวกคุณได้กินหรูอยู่สบายมีความสุข แต่คนที่โดนพวกคุณหลอกเหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาสาบแช่งพวกคุณทุกวันด้วยแรงอาฆาตพยาบาท รับรองกรรมตามพวกคุณทันแน่ในชาติ ไม่ต้อรอถึงชาติหน้า ขอให้ประชาชนที่โดนหลอกเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้เลยครับ อย่าหลงเชื่อพวกนี้อยู่อีกเลย และอย่ากลัวกับการที่ขบวนการคนพวกนี้ชอบเอาบุคคล หรือคนใหญ่คนโตมากล่าวอ้างว่าเป็นแบล็คอยู่ข้างหลัง ไม่มีจริงหรอกครับ และหากมีจริงทางสมาคมผู้สื่อข่าวฯ จะดำเนินการร้องทุกข์ดำเนินคดีให้ติดคุกติดตะรางให้หมด

พันตำรวจเอกประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองนครราชสีมา กล่าวว่าได้รับเรื่องจากสมาคมผู้สื่อข่าวฯ แล้วและได้มอบหมายให้พันตำรวจโทณพสรรค์ เพชรสมพานต์ รองผู้กำกับการสอบสวน พันตำรวจโท กิตติภพ ภาสะวณิ รองผู้กำกับการสืบสวน พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ ศรีสุนทร รองผู้กำกับการสอบสวน พันตำรวจโทอุดร ขัดแก้ว รองผู้กำกับการสอบสวน ให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนให้รับทราบว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ การหลอกลวงจากกลุ่มแก๊งค์ต่างๆ ยังคงระบาดไม่หยุด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก ในจังหวัดนครราชสีมา ก็มีจำนวนหลายพันคดี ซึ่งทางตำรวจก็พยายามเร่งดำเนินคดีให้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว ผมได้แจ้งให้กำลังพลตำรวจช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึง กลโกงการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ทางออนไลน์ให้ประชาชนทราบ และอย่าหลงเชื่อกลุ่มขบวนการเหล่านี้ การรับข้อมูลทางโทรศัพท์หรือในโซเชียลต่างๆ ควรพิจารณาคิดให้รอบคอบ ว่าอันนี้ใช่ หรือไม่ใช่ อย่าพึ่งเชื่อหรือตัดสินใจเชื่อตามที่กลุ่มขบวนการหลอกลวงกล่าวอ้าง หากมีเรื่องสงสัยให้ปรึกษาคนรอบข้าง หรือโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน จึงค่อยตัดสินใจ จะเป็นวิธีการป้องกันภัยจากการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ได้ในระดับหนึ่งครับ

 

ไม่มีคำอธิบาย 

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ