(อ่านแล้ว 50 ครั้ง)
98 สว. ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตาม ม.153 แล้ว
นายเสรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการยื่นญัตติ ว่า สว.ได้ร่วมลงชื่อเสนอญัตติ รวม 98 คน โดยมี 7 ประเด็นที่จะยื่นอภิปราย เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินและประชาชน ซึ่งขอเวลาไว้รวม 2 วัน ส่วนจะมี สว.อภิปรายมากน้อยหรือไม่ อยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนที่มีฝ่ายการเมืองบางคน ระบุว่าเร็วไปที่จะอภิปราย เพราะรัฐบาลบริหารราชการมาเพียง 4 เดือน ตนยืนยันว่าการอภิปรายไม่ใช่การล้มรัฐบาล หรือให้ตอบในการทำงานที่ล้มเหลว แต่เป็นประเด็นที่รัฐบาลควรทำตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาและหาเสียงไว้กับประชาชน ขณะเดียวกันการทำหน้าที่ของ สว. ไม่ได้ยึดติดว่า ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่าการยื่นญัตติครั้งนี้จะมีผลทางบวกในทางปฏิบัติที่รัฐบาลจะทำงาน พร้อมยังเห็นว่า ในระยะเวลา 3 – 4 เดือน ที่เหลือของ สว.ควรทำหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
นายเสรี กล่าวอีกว่า การยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาลได้พิจารณาสิ่งที่เป็นประเด็นปัญหา ส่วนที่ตั้งคำถามว่า สมัยของรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำไม สว.ไม่ยื่นอภิปรายนั้น รัฐบาลที่แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร 3 ปี แรกเจอสถานการณ์โควิด-19 ส่วนปีสุดท้ายก็ไม่มีปัญหาอะไร ในขณะที่หน้าตารัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคร่วมเดิมไม่ใช่คนละซีก คนละฝ่ายเป็นกลุ่มเดิมทั้งนั้น
นายเสรี กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่จะอภิปราย เช่น การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ระบุว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเด็นแหล่งเงินจะเป็นภาระของประเทศหรือไม่ รวมถึงย้อนไปถึงตั้งแต่ตอนหาเสียงชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นสัญญาว่าจะให้หรือไม่ เมื่อได้ทำโครงการแล้วมีช่องทางรั่วไหลหรือไม่
“ในความเห็นของ กกต. ต่อนโยบายนั้น มองว่าเป็นการให้เหตุผลมานั้นอันตรายกับบ้านเมือง รัฐบาลต้องคิดให้ดีว่าจะเป็นหนี้ 5แสนล้าน ให้ประชาชนลงทุน มีงานทำ มีรายได้ยั่งยืน หากแจกของ ที่เป็นผลผลิต เช่น พืชไร่ เป็ด ไก่ สร้างเศรษฐกิจในครัวเรือน ให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ดี มีหลายวิธี ไม่ใช่แจกเงินหมื่นบาท เพราะจะเกิดหนี้มหาศาล”นายเสรี กล่าว
นอกจากนี้ยังรวมถึงกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา หากรัฐบาลไม่รักษาความเป็นธรรมให้มั่นคงเลือกปฏิบัติ หาช่องทางที่ได้ประโยชน์ให้กับบางคนบางกลุ่ม ที่อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอนาน เป็นเรื่องปัจจุบันที่นำมาอภิปรายได้