ไทย เอสพีเอส นิวส์ เป็นเว็บข่าวเพื่อมวลชน เจาะลึก ทันเหตุการณ์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนเพื่อสังคมประเทศไทย
กรมการแพทย์ เตือน ย้อมผมหงอกทุกเดือน เสี่ยงค่าเอนไซม์ตับเพิ่ม-ไตเสื่อม
(อ่านแล้ว 63 ครั้ง)
Share on Google+

 กรมการแพทย์ เตือน ย้อมผมหงอกทุกเดือน เสี่ยงค่าเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้น-ไตเสื่อม แนะ ยืดระยะเวลาทำสีแต่ละครั้งให้นานที่สุด ลดสัมผัสสารก่ออันตราย

เมื่ออายุมากขึ้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่เส้นผมจะกลายเป็นสีขาว หรือบางคนก็เป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ แน่นอนว่าอาจจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจจึงต้องย้อมเส้นผมเป็นสีต่างๆ แต่ผลิตภัณฑ์ปิดผมขาวหรือยาย้อมผม หากใช้งานบ่อยๆ ก็อาจส่งผลเสียได้ต่อร่างกายได้เช่นกัน

สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้เผยแพร่ข้อมูลให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปิดผมขาว นั่นก็คือยาย้อมผมเคมี หรือ Permanent hair dye

โดย นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สีผมธรรมชาติ โดยเฉพาะคนไทยและคนเอเชียทั่วไปจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเกือบดำ สีดำในเส้นผมธรรมชาติมาจากเม็ดสีเมลานินที่สร้างจากเซลล์เมลาโนไซต์ในรากผม ซึ่งผมจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว เนื่องจากการทำงานของเมลาโนไซต์ที่ลดลง และมีจำนวนน้อยลงตามอายุที่มากขึ้นและกรรมพันธุ์

สำหรับผู้ที่ต้องการปิดผมขาว อาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ปิดผมขาว ซึ่งการย้อมสีผมบ่อยๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังบริเวณศีรษะ และก่อให้เกิดอาการแพ้

โดยอาการแพ้นั้นอาจเป็นผื่นเล็กน้อยบริเวณที่สัมผัส หรืออาจมีการแพ้ในระดับรุนแรง ผิวหนังมีอาการผื่นบวมคัน มีน้ำเหลืองซึม หน้าบวม ตาบวม ต่อมน้ำเหลืองบริเวณศีรษะและคอบวมโต โดยอาจมีไข้ร่วมด้วยได้ในบางราย

ด้าน พญ.นันท์นภัส โปวอนุสรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า Permanent hair dye มีส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้ 1.Developer คือสารที่ใช้ล้างสีผมเดิม ส่วนประกอบหลัก คือ hydrogen peroxide ทำหน้าที่กัดสีผมเดิมออก

เพื่อให้ได้สีผมใหม่ที่มีความสดและสม่ำเสมอ hydrogen peroxide นี้ นอกจากทำให้เส้นผมแห้งเสียและยังระคายเคืองหนังศีรษะด้วยความที่เป็นด่างสูง

2.Alkaline agent คือ สารที่ทำลายโปรตีนเส้นผม ทำให้เกล็ดผมเปิดออกเพื่อให้สีย้อมเข้าไปถึงแกนของเส้นผมได้ง่าย ส่วนประกอบหลัก คือ แอมโมเนีย เมื่อเส้นผมต้องสัมผัสกับแอมโมเนียบ่อยๆ จะทำให้ผมขาดร่วงง่าย

3.Color คือสารย้อมหลักๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไป คือ PPD (para-phenylenediamine) และ PTDS (para-toluenediamine sulfate) ซึ่งเป็นสารย้อมทางเลือกสำหรับใครที่แพ้ PPD แต่สามารถแพ้ข้ามชนิดกันได้ สีย้อมที่ยิ่งเข้มดำยิ่งมีสารย้อมที่เข้มข้นกว่าสีอ่อน

4.ส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งแล้วแต่แบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อจุดประสงค์การขาย เช่น สารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ น้ำหอม และสารกันเสีย

นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ป่วยที่มีการสัมผัสกับสารย้อมต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง มีค่าเอนไซม์ตับที่เพิ่มขึ้น และมีผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมจากการสัมผัสสารย้อมเช่นกัน

ดังนั้น หากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำสีผม ควรยืดระยะเวลาระหว่างการทำสีแต่ละครั้งให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดการสัมผัสกับสารที่ก่ออันตรายต่อร่างกายให้น้อยที่สุด

Share on Google+
หนังสือพิมพ์ออนไลน์
เศรษฐกิจในประเทศ